เทศบาลนครเชียงราย MOU อปท. ขับเคลื่อนเมืองอาหารปลอดภัยเกิดขึ้นจริง ผลักดันให้เกิดกระบวนการ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2565 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้จัดให้มีพิธีลงนาม บันทึกความร่วมมือ (MOU) เมืองอาหารปลอดภัย ระหว่าง เทศบาลนครเชียงราย กับ องค์ปกครองส่วนท้องถิ่น 8 แห่ง ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ณ อาคารเทิดพระเกียรติ 90 ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ซึ่งการลงนามดังกล่าว มี นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นสักขีพยาน รวมทั้งตัวแทนจากหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และยังมี นายสมพร ใช้บางยาง ประธานเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ประธานคณะกรรมการกำกับทิศทางของแผนสุขภาวะชุมชนพื้นที่ภาคเหนือ ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน รก.ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน เป็นพยานในบันทึกข้อตกลง
นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ เนื่องจาก ทางเทศบาลนครเชียงราย ได้ดำเนินการเรื่อง “เมืองอาหารปลอดภัย” มาอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาหลาย 10 ปี ซึ่งได้มีการขยายผลและดำเนินการให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด ซึ่งเริ่มจากการดำเนินการในพื้นที่เขตเทศบาลนครเชียงราย ก่อนที่จะขยายออกไป และได้ประสานงานกับทาง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบพื้นที่เทศบาลนครเชียงราย ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่
โดยต้องขอบคุณทาง เทศบาลตำบลบ้านดู่ อบต.รอบเวียง อบต.แม่กรณ์ อบต.ริมกก อบต.ห้วยชมภู กำนันตำบลดอยฮาง กำนันตำบลป่าอ้อดอนชัย และ กำนันตำบลแม่ยาว ที่ได้เข้าร่วมลงนามในครั้งนี้ ซึ่งในการลงบันทึกข้อตกลงนั้น เทศบาลนครเชียงรายมีนโยบายด้านอาหารปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง จนเป็นต้นแบบของการผลิตอาหารปลอดภัยตั้งแต่ระดับครัวเรือน กลุ่ม หมู่บ้าน ชุมชน และเครือข่ายผู้ประกอบการในพื้นที่เทศบาลนครเชียงราย
“จากนี้ไปหลังการลงนาม จะได้มีการกันร่วมกันสร้างเครือข่ายเกษตรกรเพื่ออาหารปลอดภัย อันนำไปสู่การเพิ่มจำนวนครัวเรือน และกลุ่มในการขยายสัมมาอาชีพในการผลิตผืช ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์เข้าสู่ระบบอาหารกลางวันของโรงเรียน ตลาดของเทศบาลนครเชียงราย และในพื้นที่ตำบลของตนเอง ร่วมกันสร้างต้นแบบรูปธรรมของการสร้างระบบอาหารปลอดภัยตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่สอดคล้องกับนโยบายของจังหวัดเชียงราย ประการสำคัญคือ การอำนวยความสะดวกให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นเจ้าภาพในการถ่ายทอดความรู้ และบทเรียน ที่จะนำไปสู่การขยายผลและขับเคลื่อนนโยบายที่นำสู่การปฏิบัติได้จริง ทั้งเทศบาลนครเชียงราย และ 8 ตำบล” นายวันชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวงานว่า โดยในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง “เมืองอาหารปลอดภัย” ทางเทศบาลนครเชียงราย ได้เน้นย้ำว่า เมื่อเกษตรกร มีการปลูกพืชผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ปลอดจากสารพิษ หรือสารเคมี ก็ส่งเข้ามาจำหน่ายที่ ศูนย์อาหารปลอดภัยเทศบาลนครเชียงราย ที่มีสถานที่กว้างขวาง กลางในเมือง ในการเป็นกลางน้ำ ที่จะจำหน่ายต่อให้กับ ผู้บริโภคที่เป็นปลายน้ำ ทั้งชาวเชียงราย และนักท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นตลาดกลางในการสร้างรายได้ให้กับเกษตร ชาวบ้าน ที่เป็นต้นน้ำ เพราะปัจจุบัน สินค้า พืชผัก ที่จำหน่ายในศูนย์ดังกล่าวก็มาจากชาวเทศบาลนครเชียงรายที่อาชีพด้านนี้
นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงราย ทุกคน ที่ได้ปฏิบัติเรื่องเมืองอาหารปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่ยอมรับเป็นวงกว้างว่าเทศบาลนครเชียงราย ได้ดำเนินการเรื่องอาหาหารปลอดภัยจนเห็นรูปธรรมที่ชัดเจน และการที่ได้จัดการลงนามครั้งนี้ จะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย ที่เรียกได้ว่า ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เพราะหากได้มาช่วยกันทำเรื่องเมืองอาหารปลอดภัย ก็จะขยายออกไปจนครบทั้ง 18 อำเภอของจังหวัดเชียงราย โครงการนี้จะเป็นโครงการนำร่อง ที่จะแก้ไขปัญหา เรื่องราคาผักแพง ผลไม้แพง รวมทั้งสินค้าขาดตลาดได้ในระดับหนึ่ง ที่สำคัญเกษตรกรจะมีรายได้ที่เพื่มขึ้น หากหันมาปลูกผักปลอดสารพิษ เพราะมีสถานที่จำหน่ายที่ชัดเจน และยังกระจายผักทุกชนิดไปยัง สถานศึกษาได้ทั้งหมด ทั้งหมดจะเป็นกระบวนการสร้างรายได้ให้กับชุมชนที่ยั่งยืน
นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ขณะนี้เทศบาลนครเชียงราย กำลังสร้างสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดให้เกิดขึ้น นั้นคือการสร้างความยั่งยืนให้กับทุกคน ในเรื่องอาหารปลอดภัย ทั้งการปลูกผัก ผลไม้ และส่งไปขายในพื้นที่ที่มีการลงนามและรวมถึงสถานศึกษา เฉพาะเทศบาลนครเชียงราย ก็มีสถานศึกษาถึง 8แห่ง อนาคตเชื่อว่า พืชผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์ ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาจะสามารถจำหน่ายไปถึงผู้บริโภคได้อย่างดี ในที่สุดความยั่งยืนในการทำอาชีพเกษตรกรรม การจำหน่าย และการบริโภค จะยั่งยืน เพราะทุกอย่างชัดเจนมาก เมื่อมีการผลิต ต้องมีสถานที่จำหน่าย และมีผู้ที่ต้องการหรือผู้บริโภค
/////